MAMATA_nurturing nature in your child
  • Home
  • Course
    • Waldorf-Inspired Parent & Child Playgroup
  • Store
  • About
    • MaMaTa Family Playgroup
    • MaMaTa Family Workshop
    • MaMaTa Family Trip
    • MaMaTa Family Store
    • MaMaTa Family Bookstore
    • MaMaTa Family Space
  • Contact
    • Map
  • Sharing / Articles
  • Photo Gallery
  • Publicity
  • ของเล่นที่เหมาะกับพัฒนาการของเด็กๆใน
  • Children Songs
  • Stockmar Modelling Beeswax
  • Children Drawing
  • Blog

ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของเด็ก 6 ขวบ (The Six-Year Transformation)

15/8/2020

7 Comments

 
แปลจากบทความต้นฉบับ เขียนโดย มิเชลล์ ไบร์ตวอเทอร์
แปลโดย  แม่ออย   ร่วมปรับปรุงบทแปล โดย แม่ตา 
ลิงค์บทความและภาพประกอบจาก https://www.themagiconions.com/2015/10/the-six-year-transformation-discovering-waldorf.html   
      
                           
                 การเปลี่ยนผ่าน หรือการเปลี่ยนแปลงของเด็กหกขวบ คือช่วงเวลาที่ทั้งน่าอัศจรรย์และสับสนวุ่นวายต่อชีวิตลูกน้อยของคุณ (และคุณด้วย!) ต่อไปนี้เราจะเล่าให้ฟังอย่างกระจ่าง ว่าควรวางตัวอย่างไรในช่วงเวลานี้ ช่วงขวบปีดังกล่าว เราเรียกกันว่า “วัยแรกรุ่น” ถึงแม้จะเรียกกันว่าการเปลี่ยนแปลงในปีที่หก แต่ความจริงแล้วเด็กสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ตอนอายุห้าขวบครึ่งจนถึงอายุเจ็ดปี การเปลี่ยนแปลงทางพัฒนาการนี้ไม่ใช่การพัฒนาเชิงเส้นกราฟ แต่เป็นการพัฒนาอย่างสมบูรณ์เพื่อที่จะเติบโตเป็นคนใหม่ที่ต่างออกไปซึ่งเปรียบเสมือนกับดักแด้ที่กลายเป็นผีเสื้อ สำหรับเด็กนั้นทุกอย่างเปลี่ยนไปทั้งสิ้น... ทั้งทางร่างกาย สติปัญญา สังคม อารมณ์ ร่างกายของเขากำลังเปลี่ยน ความรู้สึกนึกคิดก็เปลี่ยน และการเชื่อมโยงระหว่างเขาที่มีต่อโลกก็กำลังจะเปลี่ยนไป

             พ่อแม่อย่างเราจึงควรเตรียมความพร้อมด้วยการทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นนี้เสียก่อน เพื่อที่จะสามารถค้นพบหนทางที่จะเข้าหา จากนั้นจึงค่อยให้การสนับสนุนแก่เขา ในตอนที่หนอนน้อยต้วมเตี้ยมออกจากรังไหมแล้ว
Picture
           เริ่มด้วยภาวะทางกาย เด็ก ๆ กำลังเติบโต แขนขาจะยืดยาวขึ้น “ความอ้วนกลมแบบเด็กเล็ก” (Baby Fat) เริ่มหายไป รวมถึงรอยบุ๋มบนหลังมือด้วย ส่วนที่เป็นข้อมือ เอว และคอจะเห็นสัดส่วนชัดขึ้น เอวเป็นเอว คอเป็นคอ ซึ่งหมายความว่าเขาอาจกินเก่งขึ้น บางครั้งอาจมีอาการปวดจากการยืดตัวบ้าง เช่น ปวดขา ปวดเมื่อยตามข้อ และปวดท้อง
 
             ฟันน้ำนมจะหลุดออก ฟันแท้จะขึ้นมาแทนที่ มันเป็นกระบวนการที่ทั้งน่าตื่นเต้นและอึดอัดไปพร้อมกัน ในที่ประชุมฉันได้โชว์ภาพเอ๊กซเรย์ช่องปากของเด็กซึ่งเต็มไปด้วยฟันซี่ใหม่และฟันซี่เก่า ถ้าเห็นภาพนั้นแล้วอาจเรียกความน่าสงสารได้ทันที เพราะมันช่างแออัดยัดเยียด การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้แม้แต่จังหวะการเต้นของหัวใจก็เปลี่ยนไป การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพทุกส่วนส่งผลให้เด็กรู้สึก “ประหลาด” ทั้งไม่สบายตัว หงุดหงิด บางครั้งก็เจ็บปวดด้วย แต่กระบวนการทั้งหมดถือเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงต่อพัฒนาการ ดังนั้น กรุณาโอบอุ้มลูกของคุณไว้ด้วยความอ่อนโยน เมตตา เลี้ยงดูเขาให้แข็งแรง บำรุงอาหาร และให้แน่ใจว่าได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เพราะร่างกายเขากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว
 
              ภาวะทางอารมณ์และความคิด โลกใบใหม่ได้เปิดขึ้นแล้วในตัวเด็ก จนถึงตอนนี้พลังชีวิตทั้งหมดของเขามีไว้เพื่อใช้สำหรับการพัฒนาและการสร้างร่างกาย ในตอนแรกเกิดนั้นอวัยวะภายในไม่ได้สร้างตัวสมบูรณ์นัก ต้องใช้ระยะเวลาประมาณเจ็ดปีในการสร้างตัวนี้ ถ้ากระบวนการเริ่มต้นขึ้นแล้ว พลังชีวิตทั้งหมดจะถูกใช้ไปเพื่อพัฒนาอารมณ์และความคิด ทำให้มุมมองของเด็กที่มีต่อโลกเปลี่ยนไป มีความเข้าใจโลกมากขึ้น เขาจะเห็นว่าผู้ใหญ่นั้นสามารถทำผิดพลาดได้ และมักมีประเด็นคำถามมากมายเกี่ยวกับโลกใบนี้ ความเปลี่ยนแปลงทางความคิดนี้สร้างความเจ็บปวดให้แก่เขาพอสมควร เขาเริ่มรับรู้ว่ากำลังสูญเสียเวทมนตร์ในวัยเด็กไป จากที่เคยแหวกว่ายอยู่ในท้องทะเลแห่งจินตนาการที่มีตนเองเป็นศูนย์กลาง เขาจะเชื่อมโยงกับโลกและกับคุณได้ ตอนนี้เองที่เขาจะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกใหม่ที่เกิดขึ้น รู้สึกแยกตัวเป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเอง มันทั้งน่าตื่นเต้น เต็มไปด้วยพละกำลัง แต่ก็น่าหวาดหวั่นเช่นกัน คุณจะรู้สึกได้เมื่อถึงวันที่ลูกแยกจาก มันเป็นทั้งช่วงเวลาแห่งความสุขและเป็นทั้งช่วงเวลาแห่งความทุกข์ไปพร้อมกัน ทั้งที่ที่จริงแล้วเป็นเราเองที่คาดหวังว่าลูกจะเบ่งบาน เติบโต และออกโบยบินด้วยปีกของตนเอง แต่เมื่อถึงเวลานั้น โอ... มันช่างเป็นเรื่องยากเกินจะรับไหวสำหรับพ่อแม่อย่างเรา เช่นนั้นแล้ว จงเข้มแข็ง รวบรวมความกล้าให้มากพอที่จะปล่อยให้พวกเขาก้าวต่อไปข้างหน้า ให้เต็มเปี่ยมไปด้วยการมีชีวิตสมกับที่พวกเขาได้เกิดมา
 
Picture
               โลกทัศน์ใหม่นี้เป็นรากฐานสำหรับการทดสอบข้อจำกัดใหม่ ๆ ทุกอย่างแลดูไม่เหมือนเดิม ดังนั้นเขาจึงต้องหาขอบเขตอีกครั้ง ถ้าเขาพยายามทำอะไรที่ดูไม่เหมาะสมเอาเสียเลย อย่างเช่น คำพูดคำจา การโต้เถียง การปฏิเสธไม่ยอมรับ ไม่มีสัมมาคารวะ วุ่นวายไปทั่ว โกหกเดียงสา คุณไม่ต้องแปลกใจพราะมันจะมีมาอย่างไม่สิ้นสุด อีกครั้ง นี่คือช่วงเวลาที่พ่อแม่ต้องเข้มแข็ง อย่าตื่นตระหนก ตราบใดที่เรายังรักษาขอบเขตไว้ด้วยความรักและความเข้าใจ เขาจะค้นพบแกนของเขาอีกครั้ง เราจำเป็นต้องปฏิบัติต่อนักปฏิวัติวัยกระเตาะนี้ด้วยท่าทีที่แสดงให้เห็นว่าเรานั้นเห็นอกเห็นใจและเข้าใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เราจะโอบกอด ดูแลรับผิดชอบและรักเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข ให้จำไว้ว่าลูกเราเขามีหัวใจที่วิเศษ เขาต้องพยายามหาทางไปต่อของเขาเอง เราเพียงแค่คอยเตือนให้เขาไปทางไหน และช่วยให้เขาไปยังจุดหมายปลายทาง
 
                ถึงแม้ว่าการพัฒนาด้านสติปัญญาเริ่มต้นแล้วก็ตาม แต่เด็กยังคงไม่พร้อมสำหรับเนื้อหาวิชาการเต็มรูปแบบหรือการอธิบายที่เป็นเหตุเป็นผล ลูกรักของเรายังคงเชื่อมโยงโลกผ่านเรื่องเล่าและภาพที่ช่วยสร้างสรรค์ความคิด ดังนั้นจึงควรปล่อยให้เขาอยู่ในโลกเวทมนตร์และเรื่องราวมหัศจรรย์ของวัยเด็กที่ยังคงหลงเหลืออยู่นี้ไปก่อน เพราะอีกไม่นาน ชั้นประถมศึกษาปีแรกใกล้จะมาถึงแล้ว
 
              พัฒนาการด้านการเล่นที่เปลี่ยนไป จากที่เคยเป็นการเล่นจากแรงกระตุ้นจากภายนอก คือเด็กจะเห็นวัตถุก่อน แล้วค่อยบอกว่าสิ่งนั้นจะเป็นของเล่นอะไร เปลี่ยนเป็นการเล่นจากแรงกระตุ้นจากภายใน คือเขาจะจินตนาการถึงภาพที่เขาต้องการจะเล่นก่อน แล้วจึงค่อยสร้างสรรค์ให้เกิดเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา และอาจใช้เวลาไปในการกำหนดรูปแบบการเล่นมากกว่าลงมือเล่นจริงเสียอีก เมื่อการเล่นของเด็กย้ายมาเริ่มจากภายใน บางครั้งเมื่อเขาไม่สามารถคิดสร้างสรรค์ได้ คุณจะเริ่มได้ยิน “หนูเบื่อ” ก็ไม่เป็นไร ความจริงแล้วมันดีเสียอีก! นี่เพราะเป็นสัญญาณบ่งบอกที่สำคัญของความพร้อมในการเข้าเรียนชั้นประถมศึกษา จงปล่อยให้เขานั่งขลุกอยู่กับความเบื่อเพื่อกระตุ้นให้พยายามหาแรงบันดาลใจดู หากเด็กเริ่มรู้สึกกระวนกระวายหรือเริ่มจะมีอาการหงุดหงิด ให้นำเขาเข้าสู่งานของคุณ เด็กในวัยนี้ต้องการงานที่จริงจัง มีความหมาย ทำให้ช่วยจัดการกับพลังงานและการเคลื่อนไหวของเขาได้ อาจให้พวกเขาช่วยหั่นผักสำหรับมื้อค่ำ จัดโต๊ะอาหาร ไปทิ้งขยะด้วยกัน ปัดกวาดเช็ดถู ขัดผนัง ถอนวัชพืช ตอกตะปู ซ่อมแซมสิ่งของ หรืออะไรก็ตามที่คุณกำลังทำอยู่ เพราะความกระตือรือร้น ความมุ่งมั่นตั้งใจ ความรู้ความสามารถ และพลังงานของพ่อแม่จะช่วยเป็นแนวทางและปูทางให้พวกเขาได้ หลังจากมาช่วยงานพ่อแม่เล็กน้อยแล้ว เขาจะหาทางกลับไปสู่การเล่นได้เองอย่างราบรื่น
 
             ก่อนหน้าวัยนี้ ลูกของคุณอยู่ในช่วงวัยแห่งการมีเจตจำนงตามธรรมชาติ ที่ช่วยให้เขาเรียนรู้ที่จะเดิน เรียนรู้ที่จะพูด เรียนรู้เพื่อจะเป็นลูกหลานในวัฒนธรรมอเมริกัน (เด็ก ๆ ที่เติบโตในสังคมวัฒนธรรมท้องถิ่นนั้น ๆ : ผู้แปล) เป็นช่วงวัยที่มุ่งเน้นที่การกระทำ แล้วเมื่อเขาเปลี่ยนแปลงจากช่วงหกปีไปสู่เจ็ดปี ที่เป็นช่วงวัยแห่งความรู้สึก เขาจะเริ่มอ่อนไหวต่อคำพูดและการกระทำของผู้อื่นมากขึ้น เหมือนจู่ ๆ ก็เข้าใจและสังเกตถึงความรู้สึกนี้ได้ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาเองแทบจะไม่ได้สนใจมาก่อน แต่ตอนนี้กลับทำร้ายความรู้สึกเขาเหลือเกิน เด็กหลายคนอาจพูดอะไรทำนองว่า “ทุกคนใจร้ายกับหนู” หรือ “ไม่มีใครชอบหนูเลย” นี่ล่ะ ช่วงเวลาสะเทือนอารมณ์ของวัยแรกรุ่น เพราะเขากำลังพัฒนาความรู้สึก ความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ ซึ่งอาจทำให้อ่อนไหวมาก พ่อแม่ควรจะฟังเขาด้วยความระมัดระวัง มีเมตตาต่อลูกที่คุณรัก แต่จำไว้ว่าสิ่งต่าง ๆ อาจไม่เลวร้ายอย่างที่พวกเขารู้สึกในช่วงเวลานั้น นี่คือช่วงเวลาสำคัญในการสื่อสารร่วมกับคุณครู วันใดวันหนึ่งอาจมีเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกราวกับแบกโลกไว้ทั้งใบ แต่ในถัดมาโลกก็กลับมาสวยงามอีกครั้ง นอกจากนี้ พยายามรักษาจังหวะไว้ให้ดีที่สุด แม้ว่าลูกของคุณจะบอกว่าเขาไม่ต้องการไปโรงเรียน ให้รู้ไว้ว่ามันจะผ่านไปเมื่อเขาเข้าห้องเรียนเรียบร้อย คุณสามารถแจ้งให้คุณครูทราบเมื่อลูกของคุณมีอาการช่วงเช้าเช่นนี้ แล้วฉันจะแจ้งให้คุณทราบว่าวันนั้นจะเป็นอย่างไร มันยากที่จะเริ่มต้นด้วยความรู้สึกใหม่ๆ เหล่านี้ แต่ถือว่าเป็นข้อดีที่เด็กจะได้เรียนรู้จัดการ แยกแยะ และสามารถเข้าใจอารมณ์ทั้งหลาย จังหวะที่มั่นคงของพ่อแม่จึงเป็นพื้นที่ที่สบายใจและยังช่วยยกระดับการเรียนรู้ของลูกได้อีกขั้นหนึ่ง
 
               จากการรับรู้ถึงอารมณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เขาจึงรู้ว่าการกระทำของเขาสามารถกระตุ้นอารมณ์ของผู้อื่นได้ เด็ก ๆ เรียนรู้ว่าพวกเขามีพลัง พวกเขาสามารถทำให้คนอื่นทำสิ่งที่ต้องการได้ สามารถทำให้ผู้อื่นหัวเราะหรือสนใจได้ด้วยคำพูดหรือการกระทำ เด็กอนุบาลช่วงวัยนี้อาจมีวิธีการต่าง ๆ ทั้งการชักจูง การกันเด็กอื่นออกไป ทำตลกเฮฮา หรือแม้แต่การกระทำที่ไม่เหมาะสม จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะช่วยนำทางและรักษาขอบเขตไว้ เราบอกให้เด็ก ๆ รู้ว่า “คำพูดเหล่านั้นมันทำร้ายความรู้สึกผู้อื่นได้” “เราทุกคนเล่นด้วยกันในชั้นเรียนนี้” “เรามาใช้คำอ่อนโยนแก่กัน” “คำดี ๆ” เป็นวิธีเชิงบวกที่ทำให้เด็กอยู่ในขอบเขต ฉันคิดว่าเด็กต้องการคำที่บ่งบอกถึงสิ่งที่เขารู้สึก เป็นคำง่าย ๆ และชัดเจน ว่าอารมณ์แบบไหนกันที่เหมาะสมและที่ถูกที่ควร เราต้องหาวิธีประนีประนอมพร้อมหาหนทางแก้ปัญหา บางครั้งมันยาก ลูกคุณอาจจะต้องรู้จักรอหรือต้องรู้จักแบ่งปัน แต่นี่เป็นบทเรียนที่สำคัญในการเรียนรู้เพื่อมีสังคมที่ดี นิทานคืออีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยจรรโลงจิตใจเด็กได้ เมื่อฉันเห็นพฤติกรรมบางอย่างเกิดขึ้น ฉันจะเล่านิทานหรือเรื่องเทพนิยายที่มีตัวละครที่มีพฤติกรรมที่เกิดขึ้นกับเด็ก รวมทั้งผลของการกระทำที่มีต่อความรู้สึกและการแสดงออกของคนรอบข้าง จากนั้นตัวละครจะดำเนินไปยังหนทางที่ถูกต้อง มีจิตใจงดงาม และกลับกลายเป็นคนดี (ซึ่งมักจะกลายเป็นพระราชา/พระราชินี) ย้ำอีกครั้ง ว่าเราไม่ควรตื่นตระหนกต่อวิธีการทดลองของเขาเราเพียงแค่ต้องนำเขาไปยังเส้นทางที่สดใสสว่าง และเตือนตัวเองไว้ว่าต้องอดทนให้มาก
Picture
 ​           นอกจากนั้น ช่วงนี้ยังเป็นช่วงของพัฒนาการทางเพศ ทุกฤดูใบไม้ผลิเรามักจะมีเด็กบางคนที่ “ตกหลุมรัก” มีงานแต่งงาน มีเจ้าชายผู้กำลังตามหาเจ้าหญิง มีอยู่ปีหนึ่งฉันเห็นเด็กชายคนหนึ่งมักหามงกุฎในช่วงเริ่มต้นการเล่นในแต่ละครั้ง เขาจะสร้างบ้าน จัดโต๊ะงานเลี้ยง พร้อมร้องเรียก “ผมต้องการราชินี” และเขาเองก็มีราชินีในใจแล้ว ในแต่ละวัน ซาร่าห์จะยินยอมที่เป็นพระราชินีของเขา เธอนั่งลงที่โต๊ะและเขาจะบริการเธอ พวกเขาช่างวิเศษ เรามักมีคำพูดที่ใช้บ่อย ๆ ว่า “เราจะเก็บจุมพิศของเราไว้ให้พ่อกับแม่กันนะ” พวกเด็ก ๆ นั้นเกิดมาเพื่อเติบโตมีคู่ก็จริง แต่เขาต้องการคำแนะนำถึงพฤติกรรมที่เหมาะสม เริ่มได้ตั้งแต่ตอนนี้เลย! และคำพูดอีกคำที่ได้ยินบ่อยในโรงเรียนอนุบาลทั่วโลกคือ “ดึงกางเกงขึ้นครับหนุ่มน้อย และ เอากระโปรงลงจ้ะสาวน้อย” และอีกครั้ง ไม่ต้องตกใจ เพียงแค่บอกลูกรักของคุณถึงแนวทางที่ถูกที่ควร ด้วยท่าทีที่เปิดกว้าง แต่หนักแน่น และเต็มไปด้วยความรักความปรารถนาดี
 
            ยิ่งกว่านั้น เด็กในวัยนี้อาจเริ่มพูดคุยเกี่ยวพระเจ้าและความไม่มีที่สิ้นสุด ลูกหลานของเราอาจหลงใหลในคอนเซปต์ของ “จำนวนมหาศาล” (Googolplex) พวกเขาอยากรู้จำนวนที่สูงที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และอยากรู้อีกว่าอะไรมากที่สุด! ช่างน่าเอ็นดูเสียจริง มีเด็กคนหนึ่งบอกว่า “อินฟินิตี้คือ 1063!” แต่เด็กอีกคนตอบว่า “ไม่ใช่ มันหมายความว่ามันนับไม่ถ้วน” พวกเขามีบทสนทนาทางปรัชญาและศาสนาที่น่าทึ่ง ย้ำอีกครั้ง โลกกำลังเปิดต้อนรับพวกเขา ความคิดของเขากำลังขยายอาณาเขตออกไป
 
            ในห้องเรียน ฉันจัดการกับผีเสื้อที่เกิดใหม่เหล่านี้ด้วยวิธีที่หลากหลาย อาทิ ฉันมีความรักที่มั่นคง ฉันสร้างสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเด็กแต่ละคน พยายามเข้าใจทั้งหมดทั้งมวลที่เขาเป็นอย่างสุดความสามารถ ฉันรักษาขอบเขตพร้อมให้คำตักเตือนอย่างเป็นกลาง ด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ เพียงแค่บอกกล่าวเท่านั้น ฉันทำตัวเองให้เป็นตัวอย่างทั้งคำพูดและท่าทาง ฉันเล่านิทาน ฉันเป็นต้นแบบของมารยาทที่ดี มีความสุขในการทำงาน เห็นอกเห็นใจทุกสิ่ง ขี้สงสัย และมีความคิดสร้างสรรค์ ฉันให้โอกาสเด็ก ๆ มีส่วนร่วมอย่างมากในงานที่มีความหมาย เราใช้เครื่องมือของจริงสำหรับตอกและเลื่อยเพื่อสร้างบ้านของเล่น และสร้างสิ่งของที่เป็นประโยชน์สำหรับห้องเรียนและชุมชนของเรา เราให้ความช่วยเหลือผู้อื่น ฉันจัดเตรียมกิจกรรมให้ทำในตอนเดินและในตอนกิจกรรมวงกลม เราสร้างสมดุล เราปีน กระโดดเชือก เล่นเกมปรบมือ วิ่งวิบาก เรามีงานที่พิเศษและสำคัญ เราให้บริการซึ่งกันและกัน เราฝึกฝนมารยาทและฝึกพูด “คำดีๆ” บางครั้งเราทำภาพบำบัดให้แก่กัน เรามอบอ้อมกอดและขอโทษกัน เราเฉลิมฉลองทุกอย่างที่สามารถทำได้ และเราให้ความขอบคุณ คุณอาจได้ยินเพลง “ขอบคุณ” ของเราที่ใช้เพื่อขอบคุณสำหรับของขวัญและความมีน้ำใจที่มอบให้แก่กัน โดยรวมแล้วเราแสวงหา “วิถีที่ดีงามบนโลก” เพื่อยืนยันสำหรับชั้นเรียนอนุบาลของเรา บางครั้งมันอาจเป็นเรื่องยาก แต่ทุกอย่างโอเคดี อย่างที่เราพูดกันในตอนท้ายของกิจกรรมวงกลมว่า “ฉันเต้นรำกับดอกไม้ ฉันร้องเพลงกับดวงอาทิตย์ ความอบอุ่นของฉันมีให้กับทุกคน”
 
      นี่คือช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด เวลาของการพัฒนา การเติบโต ความสับสน ความอ่อนไหว และการเปลี่ยนแปลง วิธีที่ดีที่สุดที่จะนำเด็กผ่านทั้งหมดนี้คือเริ่มต้นการพูดคุยกันที่บ้าน ด้วยความเห็นอกเห็นใจ ด้วยความรักที่มั่นคง และจังหวะประจำวันที่สม่ำเสมอ ความรักและความเอาใจใส่จะช่วยให้เขาผ่านมันไปได้ ปล่อยให้เขาได้ลงมือทำงาน ได้ออกแสวงหาความท้าทายใหม่ ๆ และอยู่ที่นั่นเพื่อกอดเขาไว้ในอ้อมแขนของคุณเมื่อเขาต้องการ เขาอาจลังเลสองจิตสองใจระหว่างออกไปเผชิญโลกด้วยมุมมองใหม่อย่างกล้าหาญ กับถอยกลับมายังจุดตั้งมั่นและเริ่มรู้สึกไม่มั่นคง เขาแค่ต้องการอยู่ระหว่างการมีกรอบกับการมีเสรีภาพเหมือนเป็นวัยรุ่น อยากให้รู้ไว้ว่าคุณไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว พวกเราเหมือนคนในหมู่บ้านเดียวกัน เราดูแลกันและกันรวมทั้งเด็กทั้งหลายในชั้นเรียนทานตะวันของเราด้วย พวกเขาเปรียบเสมือนหลานชายและหลานสาว เสมือนครอบครัวเดียวกัน ช่างโชคดีจริง ๆ ที่เรามีกันและกัน

7 Comments
กบ
15/8/2020 06:17:01 pm

อ่านหัวข้อแล้วน่าสนใจมากค่ะ

Reply
Warin
15/8/2020 07:58:32 pm

No

Reply
Pakawadee
16/8/2020 05:47:49 pm

Interesting.article.

Reply
Nampen
19/8/2020 04:03:45 pm

ขอบพระคุณมากค่ะ ได้ทั้งคำอธิบายของสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งภาพ เสียง สัมผัส และความรู้สึก รวมถึงคำแนะนำเพื่อนำไปพิจารณากระทำต่อ
ขอบพระคุณในความตั้งใจและหวังดี ที่สื่อสารบทความนี้มาให้เข้าถึงและเข้าใจ
เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ

Reply
Ana Luminita Ortiz Wienken link
6/9/2020 12:36:52 pm

Lovely work! I learned a lot in <a href="https://https://www.piano-composer-teacher-london.co.uk//" rel="dofollow"> here </a>

Reply
banglakosh link
10/10/2020 02:40:07 pm

Nice post. I like your post too much.

Reply
Ilmu Komunikasi link
11/6/2023 05:50:34 am

What is "The Six-Year Transformation" referring to in relation to a 6-year-old child?

Reply



Leave a Reply.

    Picture

    MaMa Ta
    วรณัน โทณะวณิก (แม่ตา)

    Founder of MaMaTa Baansamran 

    Archives

    November 2021
    June 2021
    October 2020
    August 2020
    December 2017
    November 2014

    Categories

    All

    RSS Feed

Powered by Create your own unique website with customizable templates.
  • Home
  • Course
    • Waldorf-Inspired Parent & Child Playgroup
  • Store
  • About
    • MaMaTa Family Playgroup
    • MaMaTa Family Workshop
    • MaMaTa Family Trip
    • MaMaTa Family Store
    • MaMaTa Family Bookstore
    • MaMaTa Family Space
  • Contact
    • Map
  • Sharing / Articles
  • Photo Gallery
  • Publicity
  • ของเล่นที่เหมาะกับพัฒนาการของเด็กๆใน
  • Children Songs
  • Stockmar Modelling Beeswax
  • Children Drawing
  • Blog